สธ. เตือนประชาชนที่นิยมบริโภคเนื้อสัตว์ดิบๆ สุกๆ เช่น ลาบดิบ ลู่ดิบ แหนมดิบ เสี่ยง 12โรคอันตรายตั้งแต่โรคอุจจาระร่วง โรคอาหารเป็นพิษ พบป่วยปี 2550 แล้วกว่า 1 ล้านราย เสียชีวิต 12 ราย
นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ว่า ปัจจุบันการเจ็บป่วยจากการกินนับเป็นสาเหตุใหญ่ของคนไทย โดยเฉพาะพฤติกรรมการกินดิบ เสี่ยงติดพยาธิ โดยพยาธิที่ยังเป็นปัญหาอยู่เนืองๆ 3 ชนิด ได้แก่ พยาธิตัวกลมที่มีชื่อว่า ทริคิโนซีส (Tricinosis) พยาธิตัวตืด และพยาธิใบไม้ตับ สำหรับวิธีการกินที่ปลอดภัย ไม่ให้เป็นโรคที่มาจากการกินดิบ คือการสร้างพฤติกรรมง่ายๆ โดยกินอาหารสุก ล้างมือให้สะอาดก่อนกินอาหารและถ่ายลงส้วม ที่สำคัญจะต้องปลูกฝังพฤติกรรม ให้ลูกหลานปฏิบัติให้ติดเป็นนิสัยไปจนโต โรคที่พบจากพฤติกรรมการกินบ่อยๆ มี 12 โรคได้แก่
"พฤติกรรมการกินอาหารดิบๆ ยังพบได้ต่อเนื่อง และมักจะพบในวงเหล้า เนื่องจากบางคนยังเชื่อว่า เหล้าซึ่งมีแอลกอฮอล์ สามารถฆ่าเชื้อโรค ฆ่าพยาธิให้ตายได้ หรือใช้น้ำมะนาวจะทำให้เนื้อสุกได้ ซึ่งข้อเท็จจริงแล้วเหล้าไม่ได้ทำให้พยาธิตาย มะนาวไม่ได้ทำให้เนื้อสุก การกินอาหารประเภทเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อสุกร โค หรือกระบือแบบดิบๆ หรือดิบๆ สุกๆ เช่น ลาบดิบ โดยใส่เลือดลงในเนื้อดิบๆ รวมทั้ง ลาบแดง ลู่ดิบ แหนมดิบ มีความเสี่ยงอันตรายมาก ทั้งเชื้อโรคระบบทางเดินอาหาร และเสี่ยงติดพยาธิที่อยู่ในเนื้อสัตว์จำพวกนี้ โดยพบว่า ถุงหุ้มตัวอ่อนพยาธิตัวกลมทริซิโนซีส จะทนต่อกระบวนการถนอมอาหาร เช่น การหมักเกลือ ใช้เครื่องเทศ หรือรมควันด้วย พยาธิดังกล่าวพบได้ทั่วโลก ในไทยมักพบในจังหวัดภาคเหนือ ที่มักฆ่าชำแหละสุกรกันเอง" อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าว
สำหรับพยาธิตัวตืด เมื่อคนกินพยาธิตัวอ่อนเข้าไป ตัวอ่อนจะออกจากถุงหุ้ม เจริญเป็นตัวแก่ในลำไส้ ออกไข่แพร่พันธุ์ไปเรื่อยๆ แย่งอาหารจากคนที่กินเข้าไป ทำให้ขาดสารอาหาร หากมีพยาธิจำนวนมาก จะทำให้ลำไส้อุดตัน ช่องท้องอักเสบ เนื่องจากพยาธิไชทะลุลำไส้ อันตรายจากพยาธิพวกนี้ขึ้นอยู่ว่าตัวพยาธิจะไปติดอยู่ในอวัยวะส่วนไหนของร่างกาย เช่นหากเข้าไปที่ลูกตา ทำให้ตาบอด แต่หากเข้าไปที่สมอง จะทำให้ปวดศีรษะ ชักกระตุก หรือหมดสติได้ ถ้าไปติดอยู่ในลำไส้ ตัวพยาธิก็จะไปรบกวนการย่อยและดูดซึมอาหาร ทำให้คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ถ่ายเหลว และซูบผอม ถ้าไปอยู่ที่ตับ ไต หัวใจ ม้าม หรือกล้ามเนื้อก็จะทำให้อวัยวะส่วนนั้นทำงานได้ไม่สะดวก
นายแพทย์ธวัช กล่าวอีกว่า วิธีสังเกตอาการผู้ที่ติดโรคพยาธิ คือหิวบ่อย กินจุแต่ร่างกายผ่ายผอม มักมีอาการท้องอืดท้องเฟ้อไม่สบายท้อง และอาจมีอาการท้องเสียร่วมด้วย หรืออาจมีอาการนอนไม่หลับ หรือเวียนศีรษะ อาการเหล่านี้เป็นอาการที่แสดงว่า อาจมีพยาธิตัวตืดอยู่ในร่างกาย เนื่องจากถูกพยาธิตัวตืดแย่งอาหาร ดังนั้น ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาพยาธิและทำการรักษา
นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ว่า ปัจจุบันการเจ็บป่วยจากการกินนับเป็นสาเหตุใหญ่ของคนไทย โดยเฉพาะพฤติกรรมการกินดิบ เสี่ยงติดพยาธิ โดยพยาธิที่ยังเป็นปัญหาอยู่เนืองๆ 3 ชนิด ได้แก่ พยาธิตัวกลมที่มีชื่อว่า ทริคิโนซีส (Tricinosis) พยาธิตัวตืด และพยาธิใบไม้ตับ สำหรับวิธีการกินที่ปลอดภัย ไม่ให้เป็นโรคที่มาจากการกินดิบ คือการสร้างพฤติกรรมง่ายๆ โดยกินอาหารสุก ล้างมือให้สะอาดก่อนกินอาหารและถ่ายลงส้วม ที่สำคัญจะต้องปลูกฝังพฤติกรรม ให้ลูกหลานปฏิบัติให้ติดเป็นนิสัยไปจนโต โรคที่พบจากพฤติกรรมการกินบ่อยๆ มี 12 โรคได้แก่
- โรคอุจจาระร่วง
- โรคอหิวาตกโรค
- บิด
- โรคเอ็นเทอริค
- ไทฟอยด์
- อาหารเป็นพิษ
- โรคตับอักเสบชนิดเอ ตลอดในปี 2550 ทั่วประเทศ พบผู้ป่วยจาก 7 โรคดังกล่าว 1,344,456 ราย เสียชีวิต 12 ราย มากที่สุดคือ โรคอุจจาระร่วง ป่วย 1,204,141 ราย รองลงมาคือ โรคอาหารเป็นพิษ ป่วย 115,504 ราย และ บิด ป่วย 18,048 ราย
- โรคแอนแทรกซ์, โรคสเตรปโตคอคคัส ซูอีส ทั้ง 2 โรคนี้มีอันตรายถึงตาย หรือทำให้หูหนวก ตาบอดได้ ในปี 2550 ไม่มีรายงานผู้ป่วยโรคแอนแทรกซ์ แต่พบโรคพบผู้ป่วย โรคสเตรปโตคอคคัส ซูอีส ประมาณ 50 ราย ไม่มีรายงานเสียชีวิต
"พฤติกรรมการกินอาหารดิบๆ ยังพบได้ต่อเนื่อง และมักจะพบในวงเหล้า เนื่องจากบางคนยังเชื่อว่า เหล้าซึ่งมีแอลกอฮอล์ สามารถฆ่าเชื้อโรค ฆ่าพยาธิให้ตายได้ หรือใช้น้ำมะนาวจะทำให้เนื้อสุกได้ ซึ่งข้อเท็จจริงแล้วเหล้าไม่ได้ทำให้พยาธิตาย มะนาวไม่ได้ทำให้เนื้อสุก การกินอาหารประเภทเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อสุกร โค หรือกระบือแบบดิบๆ หรือดิบๆ สุกๆ เช่น ลาบดิบ โดยใส่เลือดลงในเนื้อดิบๆ รวมทั้ง ลาบแดง ลู่ดิบ แหนมดิบ มีความเสี่ยงอันตรายมาก ทั้งเชื้อโรคระบบทางเดินอาหาร และเสี่ยงติดพยาธิที่อยู่ในเนื้อสัตว์จำพวกนี้ โดยพบว่า ถุงหุ้มตัวอ่อนพยาธิตัวกลมทริซิโนซีส จะทนต่อกระบวนการถนอมอาหาร เช่น การหมักเกลือ ใช้เครื่องเทศ หรือรมควันด้วย พยาธิดังกล่าวพบได้ทั่วโลก ในไทยมักพบในจังหวัดภาคเหนือ ที่มักฆ่าชำแหละสุกรกันเอง" อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าว
สำหรับพยาธิตัวตืด เมื่อคนกินพยาธิตัวอ่อนเข้าไป ตัวอ่อนจะออกจากถุงหุ้ม เจริญเป็นตัวแก่ในลำไส้ ออกไข่แพร่พันธุ์ไปเรื่อยๆ แย่งอาหารจากคนที่กินเข้าไป ทำให้ขาดสารอาหาร หากมีพยาธิจำนวนมาก จะทำให้ลำไส้อุดตัน ช่องท้องอักเสบ เนื่องจากพยาธิไชทะลุลำไส้ อันตรายจากพยาธิพวกนี้ขึ้นอยู่ว่าตัวพยาธิจะไปติดอยู่ในอวัยวะส่วนไหนของร่างกาย เช่นหากเข้าไปที่ลูกตา ทำให้ตาบอด แต่หากเข้าไปที่สมอง จะทำให้ปวดศีรษะ ชักกระตุก หรือหมดสติได้ ถ้าไปติดอยู่ในลำไส้ ตัวพยาธิก็จะไปรบกวนการย่อยและดูดซึมอาหาร ทำให้คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ถ่ายเหลว และซูบผอม ถ้าไปอยู่ที่ตับ ไต หัวใจ ม้าม หรือกล้ามเนื้อก็จะทำให้อวัยวะส่วนนั้นทำงานได้ไม่สะดวก
นายแพทย์ธวัช กล่าวอีกว่า วิธีสังเกตอาการผู้ที่ติดโรคพยาธิ คือหิวบ่อย กินจุแต่ร่างกายผ่ายผอม มักมีอาการท้องอืดท้องเฟ้อไม่สบายท้อง และอาจมีอาการท้องเสียร่วมด้วย หรืออาจมีอาการนอนไม่หลับ หรือเวียนศีรษะ อาการเหล่านี้เป็นอาการที่แสดงว่า อาจมีพยาธิตัวตืดอยู่ในร่างกาย เนื่องจากถูกพยาธิตัวตืดแย่งอาหาร ดังนั้น ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาพยาธิและทำการรักษา
No comments:
Post a Comment