Tuesday, June 2, 2009

กินจานด่วนแถมมะเร็ง!

กินจานด่วนแถมมะเร็ง! [5 มี.ค. 51 - 04:05]

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร เปิดเผยว่า ในเบื้องต้นสถาบันอาหารได้วิเคราะห์หาสารอะคริลาไมด์ ที่หน่วยงานวิจัยมะเร็งระหว่างประเทศ (IARA) จัดเป็นสารกลุ่มที่มีความเป็นไปได้สูงในการก่อให้เกิดมะเร็งในคน ซึ่งปนเปื้อนมากับอาหารจานด่วนและขนมขบเคี้ยว ทั้งมันฝรั่งทอดกรอบ ขนมปังกรอบ บิสกิตเครกเกอร์ อาหารเช้าจากธัญพืช และกาแฟผง ในสหภาพยุโรปและสหรัฐฯ ในมันฝรั่งทอดกรอบ (แผ่นบาง) ขนมปังกรอบและบิสกิตหลายยี่ห้อในไทย พบว่ามีสารอะคริลาไมด์ปนเปื้อนทุกตัวอย่าง โดยเฉพาะในมันฝรั่งทอดกรอบพบปนเปื้อนในปริมาณสูง แต่ยังมีระดับต่ำกว่าปริมาณที่ตรวจพบในต่างประเทศ

“จากผลวิจัยความเสี่ยงสารอะคริลาไมด์ของสหภาพยุโรป ปลายปี 2550 ทำให้ทราบว่าคนจะได้รับสารอะคริลาไมด์เข้าสู่ร่างกายมากขึ้นจากการบริโภคอาหารพวกธัญพืช มันฝรั่ง อาหารที่มีแป้งสูงและกาแฟที่ถูกให้ความร้อนสูงๆ (สูงกว่า 120 องศาเซลเซียส) ได้ด้วย จากเดิมที่ผ่านการดื่มน้ำและการสูบบุหรี่”

นายยุทธศักดิ์กล่าวต่อว่า แม้ในต่างประเทศจะยังไม่มีการกำหนดปริมาณอะคริลาไมด์ที่ก่ออันตราย และในปัจจุบันไทยยังมีข้อมูลปริมาณการปนเปื้อนอะคริลาไมด์ในอาหารจานด่วนที่คนไทยนิยมบริโภคไม่มากนักและยังไม่มีการศึกษา หรือการประเมินความเสี่ยงถึงการได้รับสารอะคริลาไมด์จากการบริโภคอาหารจานด่วนและขนมขบเคี้ยวเหล่านี้ อีกทั้งประเทศไทยยังมีห้องปฏิบัติการไม่กี่แห่งที่สามารถวิเคราะห์ สารอะคริลาไมด์ในอาหารได้ จึงน่าเป็นห่วงคนไทยอย่างยิ่ง เพราะธุรกิจอาหารจานด่วนและขนมขบเคี้ยวในไทยได้ขยายตัวอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลจากพฤติกรรมการบริโภคอาหารของคนไทยเปลี่ยนไปจากเดิมที่บริโภคอาหารไทยแบบดั้งเดิมเป็นหลัก มาเป็นบริโภคอาหารต่างชาติและอาหารจานด่วน.

ที่มา หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ

No comments: