ในวันนั้นของเดือน มีสารพัดอาการที่สำแดงเดชในช่วงฮอร์โมนแปรปรวน เขยิบเข้ามาอีกนิด เพราะวันนี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับความเปลี่ยนแปลงทางร่างกายที่จะเกิดขึ้นให้ช่วงวันแดงเดือด อ่านแล้วคุณสาวๆจะได้ตั้งรับและหาวิธีป้องกันแก้ไขได้ทันใจ ไร้กังวล...
เรื่องเบสิกที่คุณผู้หญิงควรปฏิบัติก็คือ รักษาสุขภาพกายให้แข็งแรงเมื่อใกล้ถึงกำหนดวันมีประจำเดือน รับประทานอาหารให้ครบทุกหมู่และหมั่นออกกำลังกาย เพราะในช่วงวันนั้น ฮอร์โมนและแร่ธาตุต่างๆมักจะแปรปรวน ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้ทั้งสุขภาพกายและใจไม่สดใสเต็มร้อยอย่างเคย ดังนั้นจึงควรเติมแมกนีเซียม แคลเซียม สังกะสี ธาตุเหล็ก วิตามินบี และวิตามินซีคืนให้กับร่างกายเพื่อปรับสมดุล
ปวดท้องเมื่อไหร่... มองหาวิตามินบี6
อาการที่พบบ่อยๆในสาวๆที่เผชิญภาวะวันแดงเดือด คือการปวดเกร็งที่ท้องน้อย ซึ่งเกิดจากฮอร์โมนพรอสตาแกลนดิน(Prostaglandin) ที่กระตุ้นให้ผนังมดลูกบีบตัวเพื่อขับเลือดประจำเดือนออกจากร่างกาย เมื่อมีอาการปวดเกร็งอย่างนี้ คุณสาวๆก็มักจะหันไปพึ่งยาแก้ปวดหรือกระเป๋าน้ำร้อน แต่จริงๆ เพียงบำรุงร่างกายด้วยอาหารที่มีวิตามินบี 6 ไนอาซิน โพแทสเซียม และแมกนีเซียม ก็จะสามารถแก้ปัญหาที่ต้นเหตุได้แล้วล่ะ
นอกจากการเติมสารอาหารให้กับร่างกายแล้ว การหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน รับประทานอาหารให้พอเหมาะไม่มากจนเกินไป และออกกำลังกายอย่างส่ำเสมอก็จะสามารถลดการปวดท้องผู้หญิงแบบนี้ได้ด้วยเช่นกัน... เห็นไหมว่ามันไม่ยากอยากที่คิด
ปวดท้องสุดๆ หนำซ้ำยังมามาก... ยังงี้หาหมอดีกว่า
สาวๆควรจดจำและรู้ลิมิตการปวดประจำเดือนของตัวเอง หากบางเดือนมีอาการปวดมากกว่าที่เคย ก็เป็นไปได้ว่าคุณกำลังประสบภาวะ อันโอวูลาทอรี ไซเคิล (Unovulatory Cycle) หรือการมีประจำเดือนโดยไร้การตกไข่ อาการแบบนี้ทางการแพทย์ถือว่าเป็นการผิดปกติของร่างกายที่ไม่ร้ายแรง แค่พึ่งยาแก้ปวดและดูแลร่างกายให้แข็งแรงสมบูรณ์ก็โอเคแล้ว
แต่อย่าพึ่งนิ่งนอนใจไป เพราะยังมีสาเหตุอื่นๆอีกที่ทำให้ปวดประจำเดือนจนทนไม่ไหว อาทิ โรคเชิงกรานอักเสบ หรือ ภาวะเอนโดเมทริโอซิส(Endometriosis) ที่เกิดจากการมีเยื่อบุของมดลูกไปก่อตัวผิดที่ รวมทั้งการมีปัญหาต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ ซึ่งอาการเหล่านี้นอกจากจะทำให้ปวดท้องมากแล้ว ยังทำให้มีประจำเดือนมามากกว่าปกติด้วย หากเจอเหตุการณ์แบบนี้ ขอแนะนำว่าหาหมอค่ะ
วันมาน้อย แถมไม่ตรงเวลา.. ก็อันตรายนะ
สาวๆบางคนอาจมีอาการเลือดออกมากระปริดประปรอยก่อนการมีประจำเดือนจริงประมาณ 1 สัปดาห์ เป็นอย่างนี้ทุกเดือนเหมือนเป็นสัญญาณเตือนเพื่อให้ทันตั้งรับเทศกาลวันแดงเดือด ยังถือว่าปกติ แต่หากจู่ๆ ประจำเดือนเจ้ากรรมกลับโผล่มากะจิ๊ดริดแถมไม่ตรงต่อเวลา แบบนั้นอาจเป็นเพราะสาเหตุอื่นที่ร้ายแรง อย่างเนื้องอก ผังพืด หรือถึงขั้นมะเร็งมดลูก ทางที่ดีปรึกษาหมอให้ช่วยวินิจฉัยจะดีกว่า
หงุดหงิ๊ดหงุดหงิด เพราะเจ็บคัดเต้านม
การเจ็บคัดเต้านมในช่วงมีรอบเดือนเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ โดยมีเจ้าฮอร์โมนเอสโตรเจนตัวดีเป็นสาเหตุ แม้จะเป็นอาการที่เกิดขึ้นเฉพาะช่วงที่ประจำเดือนและสามารถหายได้เอง แต่ก็ทำให้สาวๆหงุดหงิดใจอยู่ไม่น้อย หากอยากลดอาการเจ็บคัดเต้านม แนะนำให้งดเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนโดยเด็ดขาด หันหลังให้ชา กาแฟ และน้ำอัดลมที่มีคาเฟอีน แล้วหันมาพึ่งวิตามินอี เพราะวิตามินอีนี่แหละที่มีฤทธิ์พอจะต่อต้านเจ้าเอสโตรเจนได้ดี
อันนี้พูดถึงเฉพาะกรณีเจ็บคัดเต้านมขณะมีประจำเดือนเท่านั้นนะ เพราะยังมีอาการเจ็บเต้านมจากสาเหตุอื่นๆ อีก อย่าง เป็นซีสต์ เนื้องอก เนื้อร้าย หรือกระดูกซี่โครงอักเสบ ซึ่งควรได้รับการดูแลและรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ที่มาข้อมูล : นิตยสาร Health Today
เรื่องเบสิกที่คุณผู้หญิงควรปฏิบัติก็คือ รักษาสุขภาพกายให้แข็งแรงเมื่อใกล้ถึงกำหนดวันมีประจำเดือน รับประทานอาหารให้ครบทุกหมู่และหมั่นออกกำลังกาย เพราะในช่วงวันนั้น ฮอร์โมนและแร่ธาตุต่างๆมักจะแปรปรวน ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้ทั้งสุขภาพกายและใจไม่สดใสเต็มร้อยอย่างเคย ดังนั้นจึงควรเติมแมกนีเซียม แคลเซียม สังกะสี ธาตุเหล็ก วิตามินบี และวิตามินซีคืนให้กับร่างกายเพื่อปรับสมดุล
ปวดท้องเมื่อไหร่... มองหาวิตามินบี6
อาการที่พบบ่อยๆในสาวๆที่เผชิญภาวะวันแดงเดือด คือการปวดเกร็งที่ท้องน้อย ซึ่งเกิดจากฮอร์โมนพรอสตาแกลนดิน(Prostaglandin) ที่กระตุ้นให้ผนังมดลูกบีบตัวเพื่อขับเลือดประจำเดือนออกจากร่างกาย เมื่อมีอาการปวดเกร็งอย่างนี้ คุณสาวๆก็มักจะหันไปพึ่งยาแก้ปวดหรือกระเป๋าน้ำร้อน แต่จริงๆ เพียงบำรุงร่างกายด้วยอาหารที่มีวิตามินบี 6 ไนอาซิน โพแทสเซียม และแมกนีเซียม ก็จะสามารถแก้ปัญหาที่ต้นเหตุได้แล้วล่ะ
นอกจากการเติมสารอาหารให้กับร่างกายแล้ว การหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน รับประทานอาหารให้พอเหมาะไม่มากจนเกินไป และออกกำลังกายอย่างส่ำเสมอก็จะสามารถลดการปวดท้องผู้หญิงแบบนี้ได้ด้วยเช่นกัน... เห็นไหมว่ามันไม่ยากอยากที่คิด
ปวดท้องสุดๆ หนำซ้ำยังมามาก... ยังงี้หาหมอดีกว่า
สาวๆควรจดจำและรู้ลิมิตการปวดประจำเดือนของตัวเอง หากบางเดือนมีอาการปวดมากกว่าที่เคย ก็เป็นไปได้ว่าคุณกำลังประสบภาวะ อันโอวูลาทอรี ไซเคิล (Unovulatory Cycle) หรือการมีประจำเดือนโดยไร้การตกไข่ อาการแบบนี้ทางการแพทย์ถือว่าเป็นการผิดปกติของร่างกายที่ไม่ร้ายแรง แค่พึ่งยาแก้ปวดและดูแลร่างกายให้แข็งแรงสมบูรณ์ก็โอเคแล้ว
แต่อย่าพึ่งนิ่งนอนใจไป เพราะยังมีสาเหตุอื่นๆอีกที่ทำให้ปวดประจำเดือนจนทนไม่ไหว อาทิ โรคเชิงกรานอักเสบ หรือ ภาวะเอนโดเมทริโอซิส(Endometriosis) ที่เกิดจากการมีเยื่อบุของมดลูกไปก่อตัวผิดที่ รวมทั้งการมีปัญหาต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ ซึ่งอาการเหล่านี้นอกจากจะทำให้ปวดท้องมากแล้ว ยังทำให้มีประจำเดือนมามากกว่าปกติด้วย หากเจอเหตุการณ์แบบนี้ ขอแนะนำว่าหาหมอค่ะ
วันมาน้อย แถมไม่ตรงเวลา.. ก็อันตรายนะ
สาวๆบางคนอาจมีอาการเลือดออกมากระปริดประปรอยก่อนการมีประจำเดือนจริงประมาณ 1 สัปดาห์ เป็นอย่างนี้ทุกเดือนเหมือนเป็นสัญญาณเตือนเพื่อให้ทันตั้งรับเทศกาลวันแดงเดือด ยังถือว่าปกติ แต่หากจู่ๆ ประจำเดือนเจ้ากรรมกลับโผล่มากะจิ๊ดริดแถมไม่ตรงต่อเวลา แบบนั้นอาจเป็นเพราะสาเหตุอื่นที่ร้ายแรง อย่างเนื้องอก ผังพืด หรือถึงขั้นมะเร็งมดลูก ทางที่ดีปรึกษาหมอให้ช่วยวินิจฉัยจะดีกว่า
หงุดหงิ๊ดหงุดหงิด เพราะเจ็บคัดเต้านม
การเจ็บคัดเต้านมในช่วงมีรอบเดือนเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ โดยมีเจ้าฮอร์โมนเอสโตรเจนตัวดีเป็นสาเหตุ แม้จะเป็นอาการที่เกิดขึ้นเฉพาะช่วงที่ประจำเดือนและสามารถหายได้เอง แต่ก็ทำให้สาวๆหงุดหงิดใจอยู่ไม่น้อย หากอยากลดอาการเจ็บคัดเต้านม แนะนำให้งดเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนโดยเด็ดขาด หันหลังให้ชา กาแฟ และน้ำอัดลมที่มีคาเฟอีน แล้วหันมาพึ่งวิตามินอี เพราะวิตามินอีนี่แหละที่มีฤทธิ์พอจะต่อต้านเจ้าเอสโตรเจนได้ดี
อันนี้พูดถึงเฉพาะกรณีเจ็บคัดเต้านมขณะมีประจำเดือนเท่านั้นนะ เพราะยังมีอาการเจ็บเต้านมจากสาเหตุอื่นๆ อีก อย่าง เป็นซีสต์ เนื้องอก เนื้อร้าย หรือกระดูกซี่โครงอักเสบ ซึ่งควรได้รับการดูแลและรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ที่มาข้อมูล : นิตยสาร Health Today
No comments:
Post a Comment