Wednesday, November 14, 2007

เหล้าทำอะไรกับตับของคุณบ้าง

เรื่องการดูแลสุขภาพถือเป็นเรื่องที่เร้นลับอย่างหนึ่งที่ผมเองยังไม่ใคร่เข้าถึงนัก ผู้ป่วยหรือผู้ที่มารับการรักษาหลายคนที่โรงพยาบาล จะมีความกังวลเรื่องยาและอาหารอยู่เนืองๆ
ผู้ป่วยหลายรายมีความกังวลใจว่ายาที่'จำเป็น'ต้องกินเพื่อป้องกันโรคร้ายแรง จะมีผลต่อตับ
ผู้ป่วยหลายคนกังวลว่าอาหารที่กินในแต่ละวันจะมีผลต่อตับ
ผู้ป่วยบางรายไปเจาะเลือดและเอาผลเลือดมาให้ดูบอกว่าตับเริ่มไม่ดี จะขอหยุด ยารักษาโรคดังกล่าวและขอรับยาบำรุงตับ
น่าแปลกคือหลายรายที่กังวลแบบนี้ เมื่อซักประวัติได้ความว่ายังดื่มเหล้า ... ส่วนใหญ่จะไม่คิดว่าเหล้าเป็นสาเหตุของเรื่องตับผิดปกติ แต่จะคิดว่ายาเป็นสาเหตุหลักมากกว่า

วันนี้จะขอเล่าเรื่องเหล้าที่มีผลต่อตับของแต่ละคน เพื่อจะได้รู้ว่ากินเข้าไปแล้วมันมีผลอะไรบ้าง

- เหล้าที่เรากินอยู่เป็นสารเคมีจำพวกแอลกอฮอล์ ในแง่ของสารอาหารจัดเป็นสารให้พลังงานที่ปราศจากคุณค่าทางอาหาร
- ตับ เป็นอวัยวะขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ที่ชายโครงขวา หน้าที่หลักของตับก็คือ การสร้างสารต่างๆที่ใช้ในร่างกาย และการทำลายสารต่าง
การสร้างสารของตับ ทำหน้าที่สร้างสารหลากชนิด ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มโปรตีน น้ำตาล ไขมัน ซึ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต
การทำลายสารต่างๆ มีตั้งแต่ทำลายสารที่เป็นพิษต่อร่างกาย หรือการเปลี่ยนสารที่ร่างกายไม่ต้องการ ให้ถูกขับถ่ายออกไปไม่ว่าทางอุจจาระหรือทางปัสสาวะ
ดังนั้นจะเห็นจากหน้าที่การทำงานของตับ ว่าถ้ามันถูกทำลายไป ร่างกายที่เหลือก็ไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้


ผลของเหล้าที่มีต่อตับในแง่กระบวนการ'สร้าง'
ในสภาวะปกติที่ร่างกายกินอาหารเข้าไป อาหารที่ถูกย่อยและดูดซึม จะเข้าไปในกระแสเลือด ไม่ว่าน้ำตาล โปรตีน ไขมัน ต่างถูกนำไปสู่ตับ จากนั้นตับจะทำหน้าที่เปลี่ยนแปลงสารเหล่านี้เพื่อให้เหมาะสมต่อการกระจายไปสู่อวัยวะต่างๆ
บางส่วนตับจัดให้กลายเป็นพลังงานสะสมในตับ บางส่วนตับจะส่งไปสะสมในรูปไขมันตามส่วนต่างๆของร่างกาย
แอลกอฮอล์ เมื่อกินเข้าไปแล้วจะถูกดูดซึมเข้ากระแสเลือด ส่วนหนึ่งไปสมอง(ทำให้เกิดอาการเมา) ส่วนที่เหลือก็ไปยังตับ ...
อย่างที่บอกว่ามันเป็นสารที่ให้พลังงาน เมื่อมันเข้าไป ตับก็จะเปลี่ยนแอลกอฮอล์ให้กลายเป็นสารที่ร่างกายจะเอาไปใช้ให้เกิดพลังงาน
ปัญหาก็คือว่ามันเป็นสารที่ไม่มีคุณค่าทางอาหาร ดังนั้นจึงจัดในกลุ่มอาหารชั้นเลว เพราะพอกินไปแล้วร่างกายไม่รู้สึกอิ่ม แต่ว่ามันทำให้ร่างกายรู้สึกว่ามีพลังงานในร่างกายมาก
ดังนั้นเมื่อเรากินอาหารเข้าไปตามปกติ ตับก็จะเปลี่ยนพลังงานส่วนเกินจากแอลกอฮอล์ให้กลายไปเป็นไขมัน
ดังนั้นก็จะกลายเป็นสาเหตุของโรคอ้วน ซึ่งจะตามมาด้วยโรคทางหลอดเลือดหัวใจและสมองต่อไป
นอกจากนี้เจ้ากรดไขมันที่เกิดขึ้นมาในกระบวนการนี้ ยังมีบางส่วนที่จะสะสมในตับ เกิดเป็นภาวะที่เรียกว่า Fatty Liver หรือที่คนไทยชอบเรียกว่า "ไขมันเกาะตับ"อีกด้วย

ที่จริงแง่โรคอ้วนนี้เป็นปัญหาการตายของคนไทยในระยะยาวที่สำคัญ แต่คนส่วนใหญ่ไม่รู้หรือไม่ก็ไม่สนใจ เพราะว่ามันกินเวลานานกว่าที่ผู้กินจะรู้ตัว

ผลของเหล้าที่มีต่อตับในแง่ของการ'ทำลาย'
เมื่อเรากินเหล้าเข้าไปเหล้าจะโดนส่งไปที่ตับ จากนั้นเหล้าก็จะถูกตับเปลี่ยนเพื่อเปลี่ยนไปเป็นพลังงานตามที่ได้ว่าไว้
บางส่วนของเหล้าจะเข้ากระบวนการของตับที่มีชื่อเรียกว่า Cytochrome P450 oxidase ... เป็นชื่อเอนไซม์ตัวนึงที่ใช้ในการทำลายเปลี่ยนแปลงสารต่างๆ
ยาหลายตัวต้องใช้เจ้า P450 นี้ ... ยาบางชนิด ใช้เพื่อให้ยาทำงานได้ผล ... ยาบางตัวมีพิษ ก็จะมาถูกทำลายด้วยP450 นี้
แต่ถ้าเรากินเหล้าเข้าไป จะไปกระตุ้นเจ้า P450 นี้ให้ทำงานมากขึ้น
เมื่อเจ้าP450ทำงานมากขึ้น สิ่งที่ตามมาคือ ยาหลายตัวที่กินเข้าไป จะไปถูกทำลายที่นี่มากขึ้น
ถ้าคนปกติกินยาเข้าไป1เม็ด ออกฤทธิ์ ครึ่งเม็ด (อีกครึ่งโดนทำลาย)
คนที่กินเหล้าเป็นประจำ กินเข้าไปหนึ่งเม็ด สามในสี่อาจจะโดนทำลาย ... เหลือออกฤทธิ์จริงๆแค่หนึ่งในสี่ ... ดังนั้นกินยาเข้าไปก็อาจจะไม่ได้ประโยชน์จากยาเลย

จึงไม่น่าแปลก หากใครกินเหล้าเป็นประจำแล้วเวลาเจ็บป่วยแล้วรักษาหายช้า หายไม่ทันใจ ... บางคนให้ยาถูกต้อง รักษาถูกต้อง ก็หายช้า บางครั้งบางคราวพาลไปโทษว่ายาไม่ดีรักษาไม่ดีเสียด้วยซ้ำ


ผลของเหล้าที่กระทำต่อตับ
ในกระบวนการที่เหล้าเข้าไปในตับและเปลี่ยนแปลงเป็นพลังงานนั้น จะมีช่วงที่มันกลายไปเป็นอะเซตาลดีไฮด์ ... (ฟอร์มาลินดองศพ มีชื่อว่า ฟอร์มัลดีไฮด์ คล้ายๆกันไม๊) แล้วก็เปลี่ยนไปเป็นอะซีเตท(ซึ่งเอาไปสร้างพลังงาน) และในกระบวนการช่วงที่เปลี่ยนเจ้าอะซีเตทไปเป็นพลังงาน จะเกิดไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ซึ่งมีฤทธิ์แบบอนุมูลอิสระ
หรือพูดง่ายๆว่า พอกินเหล้าไปแล้วก่อเกิดสารที่ทำลายเซลล์ตับขึ้น
ตับจะเกิดการอักเสบขึ้นมา ... และเมื่อตับทำการซ่อมแซม ก็จะเกิดแผลเป็นขึ้น
ถ้าเป็นแล้วหยุดเหล้า ตับซึ่งมีความสามารถในการซ่อมแซมตนเองสูงมาก ก็จะซ่อมแซมตนเองจากที่เคยผิดปกติจะกลับมาสู้สภาพปกติได้
แต่ถ้าไม่หยุด หากเป็นติดต่อกันนานๆเข้าก็จะเกิดสิ่งที่เรียกว่า "ตับแข็ง"ขึ้นตับกลายเป็นก้อนตะปุ่มตะป่ำ

ไขมันเกาะตับ ต้องรักษาไหม
ปกติเวลาไปตรวจแล้วเจอไขมันเกาะตับ จะเป็นการตรวจเจอด้วยการเข้าเครื่อง เช่น MRI CT อัลตราซาวน์
คนหลายคนจะเจอแล้วกังวล ... ซึ่งแพทย์ก็มักไม่ได้ให้การรักษาอะไร(ถ้าหากพูดคุยกันเข้าใจ) ถ้าหากคุยไม่ค่อยเข้าใจ ก็อาจจะให้วิตามินบำรุงตับไป
ไขมันเกาะตับจากเหล้านี้ไม่ใคร่มีอาการ ไม่มีผลเสีย และหายเองได้ภายในสองสัปดาห์หากหยุดเหล้าครับ (ดังนั้นก็จะเจอได้บ่อยๆ เวลาตรวจเจอ หมอไม่ได้รักษา แล้วไปหาพระรดน้ำมนต์และถือศีล5ศีล8 เพราะว่าการถือศีล5ก็ต้องงดเหล้า)

ตับแข็งแล้วเป็นอย่างไร
อย่างที่บอกครับว่าตับมีหน้าที่สร้างและทำลายเมื่อตับแข็งหน้าที่การทำงานก็เปลี่ยนแปลงไป
กินยาเข้าไปแล้ว บางครั้งยาออกฤทธิ์ได้ไม่ดี รักษาโรคไม่หาย
กินยาเข้าไปแล้ว ร่างกายขับทำลายยาได้ไม่ดี เกิดผลข้างเคียงของยารุนแรงกว่าปกติ
ตับทำหน้าที่แจกจ่ายพลังงาน เมื่อตับแข็งเสียไป ร่างกายก็อ่อนเพลีย (จนมีความเชื่อว่าถ้าเป็นโรคตับต้องกินน้ำหวาน )
ตับทำหน้าที่สร้างโปรตีน(Albumin)ออกไปใช้ในส่วนต่างๆ ดังนั้น เมื่อส่วนนี้เสียไปก็เกิดกล้ามเนื้อลีบลง โปรตีนในเลือดที่เรียกว่าAlbumin(หรือเรียกภาษาไทยว่าไข่ขาว)ลดลง ... ทำให้เกิดผลตามมาคือแขนขาบวม ท้องมาน น้ำท่วมปอด
ตับทำหน้าที่เกี่ยวกับการสลายแอมโมเนียเพื่อขับออกทางไต ถ้าตับเสียไปมาก แอมโมเนียจะคั่งค้าง ถ้ามีมากๆจะทำลายสมอง ส่วนนึงของคนที่เป็นตับแข็งจะตายจากเรื่องนี้
ตับมีความสามารถในการซ่อมแซมตนเองสูงมาก แต่ถ้าเกิดตับแข็ง ความสามารถดังกล่าวที่โดนกระตุ้นบ่อยๆ ก็จะก่อให้เกิดมะเร็งขึ้น ... คนที่เป็นตับแข็งก็มีความเสี่ยงก่อมะเร็งตับ

ไปตรวจเลือดแล้วไม่เห็นเป็นอะไร
เวลาไปตรวจเลือด ในผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์จะมีเอนไซม์ของตับเพิ่มสูงมากขึ้นกว่าปกติ ... แต่ว่า หากปล่อยให้เป็นไปนานๆ จนเริ่มเกิดตับแข็งไปบางส่วน ผลเลือดจะกลับมาอยู่ในค่าที่ปกติครับ
จากที่เคยพบมา คนบางคนเจาะเลือดที่รพ.แล้ว แพทย์ก็เตือนไปว่าตับเริ่มไม่ดี ให้หยุดดื่มเหล้า ... แต่จากนั้นไปแสวงหาการรักษาอื่นแล้วไปเจาะเลือดซ้ำ ปรากฎว่าผลเลือดปกติ ... บางคนหลงเข้าใจผิดว่าการรักษาทางเลือกที่ไปนั้นได้ผล
จริงๆแล้วไม่ได้ผล และกำลังกลายเป็นตับแข็งไปแล้วด้วยซ้ำ เพียงแต่ว่าอาการยังไม่แสดงออกและผลเลือดที่เคยผิดปกติกลับมาสู่ค่าปกติ (ซึ่งต่อไปอีกระยะหนึ่งจะผิดปกติอย่างชัดเจน)
ดังนั้นการเจาะเลือดแล้วปกติ ไม่ได้แปลว่าตับปกติครับ ต้องดูจากประวัติหลายๆอย่างในอดีตเพิ่มเติม

ดังนั้น หนทางที่ดีที่สุดที่ทุกท่านทำได้คือ หยุดเหล้าครับ

-=Byหมอแมว=-


Powered by ScribeFire.

No comments: